น้ำผลไม้เข้มข้นชนิดผงดี
หรือไม่ดีอย่างไร?
ในท้องตลาดของน้ำผลไม้เข้มข้นรูปแบบขวดต่าง
ๆ ผู้บริโภคจะทราบกันดีกว่า ภายใน 1 ขวดจำหน่าย อาจมีน้ำผลไม้ไม่ถึง 40% ที่เหลือคือน้ำตาล เพราะแบรนด์อื่น ๆ
เน้นปริมาณมากกว่ารสชาติของน้ำผลไม้แท้ 100% ที่มีความอร่อย ความหวานจากธรรมชาติของผลไม้
และสีสันที่ไร้การปรุงแต่ง
ผู้บริโภคจำนวนมากต้องทนกับสินค้าที่มีให้เลือกอย่างจำกัดแบรนด์
เพราะน้ำผลไม้ที่ต้องการไม่มีในฤดูกาลนั้น หรือเป็นผลไม้น้ำเข้าที่มีราคาสูง
แต่รสชาติของหัวเชื้อน้ำผลไม้ก็ไม่ถูกใจเหมือนกัน
ด้วยกระบวนการผลิตแบบ Encapsulation Nano Technology ทำให้ OmixJuice สามารถผลิตน้ำผลไม้ผง
ที่สามารถคงสภาพของกลิ่น รสชาติ และสีได้ดีกว่า
หรือมีความใกล้เคียงน้ำผลไม้ที่คั้นสด เพราะการผลิตในระบบโมเลกุลนาโน
สามารถเก็บรายละเอียดหรือผลิตได้ในโมเลกุลขนาดเล็ก ซึ่งกักเก็บรสชาติหรือความเป็นธรรมชาติของน้ำผลไม้ได้มากกว่า
ในส่วนของน้ำหนักก็เบากว่า แพคเกจสวยงาม พกพาสะดวก
อยากดื่มน้ำผลไม้เข้มข้นเพียงฉีกซองและผสมกับน้ำเปล่า
ก็ได้น้ำผลไม้เข้มข้นพร้อมดื่มทันที
ถ้าเปรียบเทียบระหว่างน้ำผลไม้เข้มข้นหลากหลายแบรนด์ชนิดน้ำ
และน้ำผลไม้เข้มข้นของ OmixJuice ที่ผลิตในรูปแบบผงแล้ว
OmixJuice เหนือกว่าทุกด้าน
เพราะเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้ากว่า
สามารถกักเก็บรสชาติของน้ำผลไม้ได้ครบถ้วนกว่า ด้วยแพคเกจการเก็บรักษาก็ง่ายกว่า
เพราะอยู่ในรูปแบบผง โอกาสการเปลี่ยนรสชาติมีน้อยกว่ามาก มั่นใจได้ในกระบวนการผลิตที่สะอาด
ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
แต่น้ำผลไม้ผง
ก็คงเทียบเคียงกับน้ำผลไม้แท้ที่คั้นพร้อมดื่มเรื่องความสดใหม่
และรสชาติที่มีเฉพาะน้ำผลไม้จากการคั้นสด หรือทำสด ๆ
แต่น้ำผลไม้เข้มข้นชนิดผงได้เปรียบในอีกหลายด้าน คือ
ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่มากมายในการผลิต เพราะอยู่ในแพคเกจซอง
ราคาถูกกว่าเมื่อนำค่าอุปกรณ์ ค่าผลไม้แท้มาเทียบกัน รวมถึงระยะเวลาในการเก็บรักษา
ผลไม้แท้จะเก็บไว้ได้ไม่เกิน 3-5
วัน สำหรับผลไม้บางชนิด
แต่น้ำผลไม้เข้มข้นชนิดผงสามารถเก็บรักษาได้ยาวนานถึง 2 ปี