วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

น้ำผลไม้เข้มข้นชนิดผงดี หรือไม่ดีอย่างไร?

น้ำผลไม้เข้มข้นชนิดผงดี หรือไม่ดีอย่างไร?



ในท้องตลาดของน้ำผลไม้เข้มข้นรูปแบบขวดต่าง ๆ ผู้บริโภคจะทราบกันดีกว่า ภายใน 1 ขวดจำหน่าย อาจมีน้ำผลไม้ไม่ถึง 40% ที่เหลือคือน้ำตาล เพราะแบรนด์อื่น ๆ เน้นปริมาณมากกว่ารสชาติของน้ำผลไม้แท้ 100% ที่มีความอร่อย ความหวานจากธรรมชาติของผลไม้ และสีสันที่ไร้การปรุงแต่ง ผู้บริโภคจำนวนมากต้องทนกับสินค้าที่มีให้เลือกอย่างจำกัดแบรนด์ เพราะน้ำผลไม้ที่ต้องการไม่มีในฤดูกาลนั้น หรือเป็นผลไม้น้ำเข้าที่มีราคาสูง แต่รสชาติของหัวเชื้อน้ำผลไม้ก็ไม่ถูกใจเหมือนกัน

ด้วยกระบวนการผลิตแบบ Encapsulation Nano Technology ทำให้ OmixJuice สามารถผลิตน้ำผลไม้ผง ที่สามารถคงสภาพของกลิ่น รสชาติ และสีได้ดีกว่า หรือมีความใกล้เคียงน้ำผลไม้ที่คั้นสด เพราะการผลิตในระบบโมเลกุลนาโน สามารถเก็บรายละเอียดหรือผลิตได้ในโมเลกุลขนาดเล็ก ซึ่งกักเก็บรสชาติหรือความเป็นธรรมชาติของน้ำผลไม้ได้มากกว่า ในส่วนของน้ำหนักก็เบากว่า แพคเกจสวยงาม พกพาสะดวก อยากดื่มน้ำผลไม้เข้มข้นเพียงฉีกซองและผสมกับน้ำเปล่า ก็ได้น้ำผลไม้เข้มข้นพร้อมดื่มทันที

ถ้าเปรียบเทียบระหว่างน้ำผลไม้เข้มข้นหลากหลายแบรนด์ชนิดน้ำ และน้ำผลไม้เข้มข้นของ OmixJuice ที่ผลิตในรูปแบบผงแล้ว OmixJuice เหนือกว่าทุกด้าน เพราะเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้ากว่า สามารถกักเก็บรสชาติของน้ำผลไม้ได้ครบถ้วนกว่า ด้วยแพคเกจการเก็บรักษาก็ง่ายกว่า เพราะอยู่ในรูปแบบผง โอกาสการเปลี่ยนรสชาติมีน้อยกว่ามาก มั่นใจได้ในกระบวนการผลิตที่สะอาด ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

แต่น้ำผลไม้ผง ก็คงเทียบเคียงกับน้ำผลไม้แท้ที่คั้นพร้อมดื่มเรื่องความสดใหม่ และรสชาติที่มีเฉพาะน้ำผลไม้จากการคั้นสด หรือทำสด ๆ แต่น้ำผลไม้เข้มข้นชนิดผงได้เปรียบในอีกหลายด้าน คือ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่มากมายในการผลิต เพราะอยู่ในแพคเกจซอง ราคาถูกกว่าเมื่อนำค่าอุปกรณ์ ค่าผลไม้แท้มาเทียบกัน รวมถึงระยะเวลาในการเก็บรักษา ผลไม้แท้จะเก็บไว้ได้ไม่เกิน 3-5 วัน สำหรับผลไม้บางชนิด แต่น้ำผลไม้เข้มข้นชนิดผงสามารถเก็บรักษาได้ยาวนานถึง 2 ปี

ถ้าถามเรื่องความคุ้มค่า แน่นอนว่าน้ำผลไม้เข้มข้นชนิดผงมีมากกว่า ทั้งประหยัดเวลา ประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ความสดใหม่และรสชาติจำเพาะบางอย่างต้องหาดื่มจากน้ำผลไม้สดแท้ 100% เท่านั้น